เมื่อพูดถึง "วิตามิน" คนส่วนใหญ่มักนึกถึงสรรคุณทาง "ยา" ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
สดชื่น และสามารถรักษาโรคได้ ความเข้าใจดังกล่าวถูกต้องเพียงบางส่วน
แม้ว่าวิตามินจะสามารถทำหน้าที่เสมือนยาแต่ถึงอย่างไรวิตามินก็ไม่ใช่ยา เพราะความจริงแล้ววิตามินเป็นส่วนหนึ่งของสารอาหารและสารอินทรีย์ที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย
เริ่มตั้งแต่การหายใจของเซลล์ การนำโปรตีน
ไขมันและคาร์โบไฮเดรตไปใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อ รวมถึงการผลิตพลังงาน
ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายของคนเราไม่สามารถสร้างหรือสังเคราะห์วิตามินขึ้นได้เอง
เราจึงต้องได้รับวิตามินที่เป็นสารสกัดจากสิ่งมีชีวิต (Organic) ผ่านการกินอาหารเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างในร่างกาย
วัตถุประสงค์และวิธีการกินวิตามิน รวมถึงสารอาหารยอดฮิตชนิดต่างๆ
ให้ถูกต้องและปลอดภัยควรทำอย่างไร ลองตามไปดู
วิตามินซี ในรูปแบบอาหารเสริม มีทั้งแบบเม็ดอัด แคปซูล
ลูกอม ผสมน้ำหวาน-เครื่องดื่ม หรือผงละลายน้ำ รวมถึงการนำมาทำเป็น ซีรั่ม ครีม
โลชั่น เพื่อเป้าหมายหลักในการบำรุงผิวให้ดูขาวใส เปร่งปรั่ง ลดความหมองคล้ำ
นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย
สามารถป้องกันและรักษาโรคหวัด
ทั้งยังมีส่วนช่วยลดการอักเสบจากการติดเชื้อและระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย
ปัญหาการขาดวิตามินซีพบได้ในกลุ่มคนที่ควบคุมอาหารมากๆ เป็นมังสวิรัต สูบบุหรี่
รวมถึงผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับการดูดซึม ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดข้อ
เลือดออกตามไรฟัน แผลหายช้า และติดเชื้อง่าย
ปริมาณวิตามินซีที่รางกายต้องการขั้นต่ำต่อวันคือ 60 มก.
ในรายที่ขาดวิตามินซีแพทย์จะแนะนำให้กินวันละไม่เกิน 1000 มก.
เพื่อประโยชน์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย
แต่ในช่วงที่เป็นหวัดควรกินวันละ 3000 มก. แบ่งเป็น 3-6
เวลา ตลอดทั้งวัน จะลดความรุนแรงของหวัดได้มากที่สุด 85%
วิตามินบีรวม เป็นกลุ่มของวิตามินที่มีความจำเป็นต่อเส้นประสาทและความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง
ๆ ซึ่งประกอบด้วยวิตามิน บี 1, บี 2, ไนอะซีน,
แพนโทธีนิก แอซิด, บี 6, บี 12, โฟลิก แอซิด, ไอโนซิทอล
และโคลีน วิตามิน บี รวมนอกจากจะเหมาะสำหรับการบำรุงสุขภาพผิว ผม สายตา ตับแล้ว
ยังมีประโยชน์อย่างมากในการรักษาความผิดปกติของเส้นประสาทและคลายความเคร่งเครียดในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้หลายคนไม่รู้ว่าวิตามินบียังช่วยให้กระฉับกระเฉง
ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่นอนดึกหรือนอนหลับยาก
การกินวิตามินบีก่อนนอนอาจทำให้คุณกลายร่างเป็นนกฮูกตาค้างไปทั้งคืน
สำหรับปริมาณในการกินวิตามินบีเพื่อเป็นอาหารเสริมควรอยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 มก. ต่อวัน
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส มีประโยชน์ช่วยต้านการอักเสบ
เป็นองค์ประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ ช่วยป้องกัน
และยับยั้งการลุกลามของภาวะประสาทเสื่อมจากโรคเบาหวาน บำรุงผิวพรรณ
รักษาผิวหนังอักเสบ
นอกจากนี้ยังพบรายงานวิจัยบ่งชี้ว่าการรับประทานน้ำมันอีฟนิงพริมโรส
มีผลในการรักษาภาวะประจำเดือนผิดปกติ คลายการเจ็บเต้านมช่วงก่อนมีประจำเดือน
และช่วยบรรเทาอาการปวดบวมของข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ แม้อีฟนิ่งพริมโรสจะถูกโฆษณาและโหมสรรพคุณมากมาย
โดยเฉพาะในเรื่องการบำรุงผิวพรรณ แต่ทางที่ดีควรใช้เท่าที่จำเป็น ไม่เกิน 3,000 มก.
ต่อวัน สำหรับผลข้างเคียงอาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะ ผื่นแพ้และลมชักกำเริบ
กลูต้าไธโอน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง
มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง
ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย
กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
และที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกายด้วย
ผลิตภัณฑ์กลูตาไธโอนที่พบในท้องตลาดส่วนใหญ่เน้นสรรพคุณเรื่องผิวขาว
มักอยู่ในรูปยาเม็ดหรือผงละลายน้ำซึ่งสามารถถูกทำลายได้ในทางเดินอาหารของมนุษย์
ดังนั้นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการกินกลูตาไธโอนจึงแทบจะไม่มีเลย
ทำให้มีคนพยายามนำกลูตาไธโอนในรูปแบบยาฉีดมาใช้แทนยากินมากขึ้น
แต่ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของกลูตาไธโอนเพื่อให้ผิวขาวใสนั้นก็ยังไม่มีการพิสูจน์ผลที่ชัดเจน
Zinc(สังกะสี) เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่ช่วยรักษาบาดแผลในร่างกายและช่วยให้ร่างกายดำรงความสมดุลในผู้ใหญ่
และช่วยทำให้เกิดความเจริญเติบโตในเด็ก ควบคุมฮอร์โมน สังเคราะห์โปรตีน
ช่วยสร้างเซลล์ เสริมภูมิคุ้มกัน zinc ประกอบด้วยเอ็นไซม์ที่ควบคุมกระบวนการเผาผลาญ
ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระโดยปัจจัยต่าง ๆ หน้าที่ของ zinc ที่น่าสนใจก็คือการช่วยควบคุมอาการผิดปกติของผิวและช่วยในการรักษาบาดแผล
อาหารเสริม zinc จะให้ผลดีที่สุดหากกินก่อนอาหารอย่างน้อย 1
ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมงหลังอาหาร
อย่างไรก็ดีหากมีอาการปวดท้องควรกินพร้อมอาหาร
และไม่ควรกินร่วมกับอาหารที่มีแคลเซียมหรือฟอสฟอรัสสูงเพราะอาจทำให้การดูดซึมสังกะสีลดลง
จำให้ขึ้นใจ วิตามินไม่ใช่ยาวิเศษ!
" วิตามินไม่สามารถทดแทนอาหารได้
และไม่สามารถดูดซึมได้หากไม่ได้รับประทานร่วมกับอาหาร
" วิตามินไม่ใช่ยากล่อมประสาท
" วิตามินไม่สามารถทดแทนโปรตีนหรือสารอาหารอื่น เช่น
เกลือแร่ ไขมัน คาร์โบไฮเดรต น้ำ หรือแม้แต่ทดแทนกันเอง
โดยตัวของวิตามินเองแล้วไม่ใช่ส่วนประกอบของโครงสร้างในร่างกายเรา
คุณไม่สามารถเลิกกินอาหารอื่นๆ และหันมากินแต่วิตามิน เพื่อสุขภาพที่ดีได้
ที่มา : http://women.sanook.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น