วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก


เว็บไซต์มูลนิธิ New7Wonders of Nature เปิดเผยผลลงคะแนนให้กับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2011 ที่ผ่านมา ผลปรากฎว่า "ป่าอเมซอน," "อ่าวฮาลอง" หรือฮาลองเบย์ในเวียดนาม, น้ำตกอีกัวซูในประเทศอาร์เจนตินา, เกาะเจจูของเกาหลีใต้, เกาะโคโมโดของอินโดนีเซีย, แม่น้ำเปอร์โต พรินเซซา ในฟิลิปปินส์ และเทเบิล เมาน์เทน ในแอฟริกาใต้ ได้รับเลือกเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก 

ขณะที่สถานที่ธรรมชาติอื่นๆทั่วโลกที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นตัวเก็ง กลับตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย อาทิ แนวปะการัง เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ ทางชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย, ยอดเขาคิลิมันจาโร ในแทนซาเนีย ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในแอฟริกา, ทะเลเดดซี และแกรนด์ แคนยอน

ประชาชนบนเกาะเจจูกว่า 2,000 คน ต่างร่วมแสดงความยินดีต่อผลดังกล่าว โดยนายกเทศมนตรีจังหวัดเจจูกล่าวว่า นี่จะเป็นการช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเกาะได้อย่างดี รวมถึงการลงทุนด้านสาธารณูปโภค การเกษตร

ผลดังกล่าวได้มาจากการคัดเลือกสถานที่ 440 แห่งทั่วโลกใน 220 ประเทศ แล้วคัดเลือกให้เหลือ 77 แห่ง 28 แห่ง และสุดท้ายคัดเลือก 7 แห่ง ให้เป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก

ทั้งนี้ การลงคะแนนเสียงดังกล่าว นับจากเวลา 11.11 น. ตามเวลามาตรฐานสากล ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2011  หรือ 11/11/11 เรียงตามตัวอักษร ซึ่งจะมีการประกาศผู้ชนะอย่างเป็นทางการในปีหน้า โดยจะนำไปรวมกับ  7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น ที่ประกาศไปแล้วเมื่อวันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 ซึ่งประกอบไปด้วย

1.ชิเชน อิตซา อัสเทค ไซต์ แห่งยูคาตาน ประเทศเม็กซิโก
2.ไครสต์ เดอะ รีดีมเมอร์ ที่นคร ริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล
3.กำแพงเมืองจีน
4.มาชู ปิกชู ประเทศเปรู
5.เมืองโบราณเพตรา จอร์แดน
6.สนามกีฬาโคลอสเซียม กรุงโรม อิตาลี
7.ทัชมาฮาล อินเดีย

1.ป่าอะเมซอน อเมริกาใต้


ป่าอเมซอนกินเนื้อที่กว้างถึง 2 ใน 5 ของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบราซิล ที่เหลือนั้นแผ่เข้าไปในอีก 8 ประเทศใกล้เคียง คิดเป็นเนื้อที่ป่าได้ราว 2.5 ล้านตารางไมล์ (6.4 ล้านตารางกิโลเมตร) ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ขนานกับเส้นศูนย์สูตร โดยสิ่งที่แบ่งป่าออกเป็นตอนเหนือกับตอนใต้ก็คือแม่นํ้าอเมซอน ซึ่งมีต้นนํ้าอยู่ที่เทือกเขา แอนดีส (Andes) ของเปรู แล้วไหลจากตะวันตกไปตะวันออก เป็นระยะทางถึง 6,400 กิโลเมตร ลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก แต่ที่น่าตกตะลึงก็คือปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลของมัน ทั้งนี้เพราะมีแควที่ไหลลงมาสู่แม่นํ้านี้ถึง 1,100 สาย และความกว้างของแม่นํ้าอเมซอน ก็มีขนาดใหญ่มาก ในบางพื้นที่จากปากอ่าวเข้าไปในทวีป 1,000 กว่ากิโลเมตร แม่น้ำมีขนาดกว้างถึง 10 กิโลเมตร ขณะที่ความกว้างที่ปากอ่าวมีระยะทางถึง 320 กิโลเมตร

2.อ่าวฮาลอง ประเทศเวียดนาม




ฮาลอง เบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับสาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร และมีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออกประมาณ 170 กิโลเมตร มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามเขียนได้ว่า "Vinh Ha Long" หมายถึง "อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง"
ตำนานพื้นบ้านกล่าวไว้ว่า ในอดีตนานมาแล้วระหว่างที่ชาวเวียดนามกำลังต่อสู้กับกองทัพชาวจีนผู้รุกราน เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนาม มังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณที่เป็นอ่าวฮาลองในปัจจุบัน ทำให้มีอัญมณีและหยกพุ่งกระเด็นออกมากลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วอ่าวเป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน ทำให้ชาวเวียดนามปกป้องแผ่นดินได้สำเร็จ และก่อตั้งประเทศ ซึ่งต่อมาคือเวียดนามในปัจจุบัน


3.น้ำตกอีกัวซู  บราซิล/อาร์เจนตินา



ชื่ออีกัวซู มาจากคำว่า Guarani แปลว่า น้ำ และคำว่า uasu แปลว่า ใหญ่ มีตำนานเล่าขานกันมาว่า สมัยนนั้นพระเจ้าทรงวางแผนจะแต่งงานกับ Naipi สาวพื้นเมืองแสนสวย แต่สาวเจ้าหนีไปด้วยเรือ canoe กับชายคนรักชื่อ Taroba ทำให้พระเจ้าทรงพิโรธ พระองค์จึงตัดแม่น้ำออก ทำให้เกิดเป็นน้ำตกใหญ่มหึมา และสาบแช่งคู่รักสองคนนั้นให้ตกลงไป ในน้ำตกนั้นชั่วกัลปาวสาน
น้ำตกอีกัวซูมีความสูงเฉลี่ย 62 - 82 เมตร โดยมีน้ำตกขนาดเล็กและใหญ่ทั้งสิ้น 275 น้ำตก เรียงรายอยู่ในอาณาบริเวณใกล้เคียงกัน และมีความยาวทั้งสิ้น 2.7 กิโลเมตร

4.เกาะเจจู  ประเทศเกาหลีใต้


เชจูโด หรือเกาะเชจู ซึ่งอยู่ทางใต้ของกรุงโซล เป็นหนึ่งในจังหวัดทั้งเก้าของเกาหลีใต้  เกาะได้รับการขนานนามว่า "เกาะแห่งความฝัน" ยังมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในเรื่องของภูมิทัศน์อันงดงาม ที่ประกอบด้วยชายฝั่งที่ยาวถึง 256 กิโลเมตร น้ำตก ภูเขาไฟดับแล้ว และป่าเขารกครึ้ม

5.อุทยานแห่งชาติโคโมโด ประเทศอินโดนีเซีย



อุทยานแห่งชาติโคโมโด (Taman Nasional Komodo) เป็นอุทยานแห่งชาติในประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ใกล้หมู่เกาะซุนดาน้อย ระหว่างจังหวัด East Nusa Tenggara และ West Nusa Tenggara อุทยานประกอบด้วยเกาะใหญ่ 3 เกาะ คือ เกาะโคโมโด เกาะริงกา และเกาะปาดาร์ รวมทั้งยังมีเกาะเล็กๆอีกมากมาย ซึ่งเกาะเหล่านี้กำเนิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ มีพื้นที่รวมทั้งหมด 1,817 ตารางกิโลเมตร (ส่วนที่เป็นแผ่นดิน 603 ตารางกิโลเมตร) มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 คน ก่อตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2523 เพื่ออนุรักษ์มังกรโคโมโด ภายหลังยังจัดเป็นพื้นที่สำหรับอนุรักษ์สัตว์ป่าและสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆอีกด้วย ใน พ.ศ. 2534 อุทยานได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ

6.แม่น้ำใต้ดิน เปอร์โต ปรินเซซา ประเทศฟิลิปปินส์



เปอร์โต ปรินเซซา หรืออุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินเปอร์โต ปรินเซซา  ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาเซนต์ พอล ทางตอนเหนือของเกาะปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี 1992 อุทยานประกอบด้วยเทือกเขาหินปูนจำนวนมาก โดยมีแม่น้ำใต้ดินไหลอยู่เบื้องล่างเป็นระยะทางยาว 8.2 กม. ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลจีนใต้ องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินเปอร์โต ปรินเซซา เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1999 ยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ

7.เทเบิลเมาท์เทน ประเทศแอฟริกาใต้


ภูเขาโต๊ะ ตั้งอยู่เหนือเมืองเคปทาวน์ ทางตอนใต้ของประเทศแอฟริกาใต้ โดยได้ชื่อมาจากยอดเขาที่แบนราบ มองดูเหมือนโต๊ะ มีความยาว 2 กิโลเมตร สูง 1,086 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเทเบิลเมาน์เทน (Table Mountain National Park) รวมอยู่ใน Cape Floral Region ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของแอฟริกาใต้ในปี พ.ศ. 2004


ที่มา  :  arayanewspaper.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น